การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อศึกษา เปรียบเทียบ หาความสัมพันธ์และหาแนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารกับการสร้างองค์กรแห่งนวัตกรรมในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย ผู้บริหารและครูผู้สอน ปีการศึกษา 2567 จำนวน 324 คน จำแนกเป็นผู้บริหาร จำนวน 74 คน และครูผู้สอน จำนวน 250 คน กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้ตารางของ Krejcie and Morgan และเลือกกลุ่มตัวอย่างด้วยวิธีการสุ่มแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ โดยแบบสอบถามเป็นมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ประกอบด้วย แบบสอบถามเกี่ยวกับภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหาร มีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.561 - 0.832 และความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.972 และแบบสอบถามการสร้างองค์กรแห่งนวัตกรรมมีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.536 - 0.825 และความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.972 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One - Way ANOVA) การทดสอบความแตกต่างระหว่างค่าเฉลี่ยรายคู่ โดยใช้วิธีการ (Scheffe's Method) และค่าสัมประสิทธิสหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน (Pearson's Product - Moment Correlation Coefficient) ผลการวิจัยพบว่า 1. ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด 2. การสร้างองค์กรแห่งนวัตกรรมในโรงเรียน โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด 3. ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหาร จำแนกตามสถานภาพการดำรงตำแหน่ง ขนาดโรงเรียน และลักษณะการเปิดสอนพบว่า โดยรวมและรายด้านไม่แตกต่างกัน 4. การสร้างองค์กรแห่งนวัตกรรมในโรงเรียน จำแนกตามสถานภาพการดำรงตำแหน่ง ขนาดโรงเรียน และลักษณะการเปิดสอน พบว่า โดยรวมและรายด้านไม่แตกต่างกัน 5. ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารกับการสร้างองค์กรแห่งนวัตกรรมในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 3 ตามความคิดเห็นของผู้บริหารและครูผู้สอน มีความสัมพันธ์กันทางบวก อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยมีความสัมพันธ์ในระดับสูง (rxy = .843**) 6. แนวทางพัฒนาภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารและการสร้างองค์กรแห่งนวัตกรรมในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 3 จำนวน 3 ด้าน ได้แก่ 1) การสร้างแรงบันดาลใจ ควรมีการส่งเสริม และพัฒนาภาวะผู้นำให้แก่ผู้บริหารโรงเรียน 2) การกระตุ้นทางปัญญา ควรสร้างจิตสำนึกที่ดีให้แก่ผู้บริหารโรงเรียนในการปฏิบัติงานทุก ๆ ด้าน 3) การคำนึงถึงความเป็นปัจเจกบุคคล ควรส่งเสริมและเป็นที่ปรึกษา โดยจะต้องเอาใจใส่ในความต้องการของปัจเจกบุคคล 4) การสร้างบารมีสู่การเปลี่ยนแปลง ผู้บริหารควรสร้างความน่าเชื่อถือและปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้ใต้บังคับบัญชา 5) วิสัยทัศน์และกลยุทธ์ ควรส่งเสริมให้บุคลากรร่วมกันกำหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจและกลยุทธ์ 6) โครงสร้างองค์กร ควรส่งเสริมการจัดโครงสร้างองค์กรให้ชัดเจน 7) วัฒนธรรมและค่านิยมองค์กร ควรส่งเสริมผู้บริหารและบุคลากรในองค์กรร่วมกันวัฒนธรรมและค่านิยมที่ดีในองค์กร 8) การส่งเสริมบุคลากร ควรสนับสนุนและส่งเสริมให้บุคลากรเข้ารับการอบรม สัมมนาในการสร้างนวัตกรรม และ 9) การทำงานเป็นทีม ควรสนับสนุนและส่งเสริมให้บุคลากรทำงานเป็นทีม แบ่งหน้าที่ที่รับผิดชอบอย่างชัดเจน
This research aimed to examine, compare, and determine the relationship and establish guidelines for developing administrators’ transformational leadership and innovative organizations in schools under Sakon Nakhon Primary Educational Service Area Office 3. The sample consisted of 324 participants, including 74 administrators and 250 teachers in the 2024 academic year. The sample size determination was calculated through the Krejcie and Morgan table, and selected through multiple - stage sampling. The research tools included questionnaires and interview forms. The 5 - point rating scale questionnaires assessing administrators’ transformational leadership had the predictive power ranging from 0.561 to 0.832, and the reliability of 0.972. Another one measuring the innovative organizations had the predictive power ranging from 0.536 to 0.825, and the reliability of 0.972. The statistics for data analysis included frequency, percentage, mean, standard deviation, One - Way ANOVA, Scheffe’s method, and Pearson's product-moment correlation coefficient. The research results found that: 1. The transformational leadership of administrators was at the highest level overall. 2. The creation of innovative organizations in schools was at the highest level overall. 3. The transformational leadership of school administrators showed no differences, both overall and in each aspect, when classified by positions, school sizes, and types of programs offered. 4. The creation of innovative organizations in schools, classified by positions, school sizes, and types of programs offered, showed no differences, both overall and in each aspect. 5. The transformational leadership of administrators and the creation of innovative organizations in schools under Sakon Nakhon Primary Educational Service Area Office 3, as perceived by participants, had a positive relationship at the 0.01 level of significance, with a high level of correlation (rxy = .843**). 6. The guidelines for developing administrators’ transformational leadership and the creation of innovative organizations in schools under Sakon Nakhon Primary Educational Service Area Office 3, comprising three aspects: 1) Creating Inspiration Motivation - promoting and developing school administrators’ leadership; 2) Intellectual Stimulation - enhancing school administrators’ good conscience in all aspects for performing tasks; 3) Individualized Consideration - acting as consultants by addressing individual needs; 4) Building Charisma for Change - establishing credibility and serving as good role models for subordinates; 5) Vision and Strategy - encouraging personnel to collaboratively formulate the vision, mission and strategies; 6) Organizational Structure - promoting a clear and well - defined organizational structure; 7) Organizational Culture and Values - fostering a shared positive culture and values among administrators and personnel within organizations; 8) Personnel Promotion-supporting and encouraging personnel participation in training and seminars to create innovations; and 9) Teamwork-promoting teamwork engagement among personnel, and ensuring clearly assigned responsibilities.
