การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาภาวะผู้นำการเรียนรู้ของผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้ของครูในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 1 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษาและครู ปีการศึกษา 2567 จำนวน 345 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่ม แบบหลายขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ โดยด้านภาวะผู้นำการเรียนรู้ของผู้บริหารสถานศึกษา มีค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่าง 0.80–1.00 ค่าอำนาจจำแนกระหว่าง 0.68–0.87 และค่าความเชื่อมั่น 0.98 ส่วนด้านประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้ของครู มีค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่าง 0.60–1.00 ค่าอำนาจจำแนกระหว่าง 0.45–0.75 และค่าความเชื่อมั่น 0.97 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ แบบเพียร์สัน และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณแบบเป็นขั้นตอน ผลการวิจัยพบว่า 1. องค์ประกอบของภาวะผู้นำการเรียนรู้ของผู้บริหารสถานศึกษามี 6 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) ความคิดสร้างสรรค์ 2) การเรียนรู้เป็นทีม 3) การจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ 4) การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการปฏิบัติงาน 5) การบูรณาการ และ 6) การเรียนรู้ด้วยการนําตนเอง และองค์ประกอบของประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้ของครู มี 6 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) การสร้างความชัดเจนในบทเรียน 2) การจัดบรรยากาศในชั้นเรียน 3) การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 4) การใช้สื่อการเรียนรู้ 5) การแสดงความใส่ใจในการจัดการเรียนรู้ และ 6) การวัดและประเมินผล การเรียนรู้ โดยทุกองค์ประกอบ มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด 2. ภาวะผู้นำการเรียนรู้ของผู้บริหารสถานศึกษา โดยรวมและรายด้าน อยู่ในระดับมาก 3. ประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้ของครู โดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก 4. ภาวะการเรียนรู้ของผู้บริหารสถานศึกษากับประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้ของครู มีความสัมพันธ์กันทางบวกในระดับปานกลาง อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .01 5. ภาวะผู้นำการเรียนรู้ของผู้บริหารสถานศึกษาด้านที่มีอำนาจพยากรณ์ประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้ของครู อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 จำนวน 2 ด้าน ได้แก่ การเรียนรู้ด้วยการนำตนเอง (X6) และความคิดสร้างสรรค์ (X1) สามารถพยากรณ์ประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้ของครู อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 จำนวน 1 ด้าน ได้แก่ การเรียนรู้เป็นทีม (X2) โดยมีอำนาจพยากรณ์ร้อยละ 44.70 และมีความคลาดเคลื่อน มาตรฐานในการพยากรณ์ .346 สามารถเขียนสมการพยากรณ์ ดังนี้ สมการณ์พยากรณ์ในรูปคะแนนดิบ Y/ = 1.466 + .272(X6) + .227(X1) + .158(X2) สมการพยากรณ์ในรูปคะแนนมาตรฐาน Z/y = .332(Z6) + .233(Z1) + .168(Z2) 6. แนวทางการพัฒนาการเรียนรู้ภาวะผู้นำของผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้ของครู มีจำนวน 3 ด้าน ได้แก่ การเรียนรู้ด้วยการนำตนเอง ความคิดสร้างสรรค์ และการเรียนรู้เป็นทีม โดยมี 3 วัตถุประสงค์ 9 ผลลัพธ์หลัก และ 27 แนวทางการพัฒนา โดยผลการประเมินพบว่ามีความเหมาะสมและความเป็นไปได้อยู่ในระดับมากที่สุด
This study aimed to investigate the learning leadership of school administrators affected learning management efficiency of teachers in schools under Nakhon Phanom Primary Educational Service Area Office 1. The participants of the study consisted of 345 school administrators and teachers who were recruited using multi-stage sampling in academic year 2024, The instrument was a 5-rating scale questionnaire, which the part of learning leadership of school administrators indicated validity index ranged between 0.80 - 1.00, discrimination power index ranged between 0.68 - 0.87, and reliability index was at 0.98, where as the part of learning management efficiency of teachers indicated validity index ranged between 0.60 - 1.00, discrimination power index ranged between 0.45 - 0.75, and reliability index was at 0.97. Statistics used in data analysis were frequency, percentage, mean, standard deviation, Pearson correlation coefficient and Stepwise multiple regression analysis The findings were as follows. 1. The learning leadership of school administrators comprised six components, namely 1) creativity, 2) team learning, 3) creating a conducive learning environment, 4) using technology in practice, 5) integration and 6) self-directed learning. Additionally, the components of learning management efficiency of teachers comprised six components, namely 1) creating clarity in lessons, 2) creating classroom atmosphere, 3) learning management, 4) using learning media, 5) showing concern in organizing learning, and 6) measurement and evaluation of learning outcomes. All components showed the highest levels of appropriateness. 2. Learning Leadership of school administrators, in overall and each aspect were at high level. 3. Learning management efficiency of teachers, in overall and each aspect were at high level. 4. The learning leadership of school administrators and learning management of teachers showed positive correlation at moderate with statistical significance at .01 5. The learning leadership of school administrators in the aspect that showed the predict power on learning management efficiency of teachers with statistical significance at .01. Two aspects, namely self-directed learning (X6) and creativity (X1) could predict the learning management efficiency of teachers with statistical significance at .05, Team learning (X2) showed predictive power at 44.70 percent, and a standard error of .346. The predictive equation could be written as follows. Predictive equation in raw score form Y/ = 1.466 + .272(X6) + .227(X1) + .158(X2) Predictive equation in standard score form Z/y = .332(Z6) + .233(Z1) + .168(Z2) 6. The guidelines of learning leadership of school administrators affecting learning management efficiency of teachers comprised three aspects, namely self-directed learning, creativity, and team learning. There were three objectives, nine key results and 27 development guidelines, which showed the highest levels propriety and feasibility.
