การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อศึกษา เปรียบเทียบ หาความสัมพันธ์หาอำนาจพยากรณ์ และหาแนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำดิจิทัลของผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อประสิทธิผลการบริหารโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคาย เขต 2 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในก ารวิจัย ประกอบด้วยผู้บริหารสถานศึกษา และครูผู้สอน ปีการศึกษา 2567 จำนวน 286 คน จากจำ นวน 104 โรงเรียน กำหนดขนาดของกลุ่ มตัวอย่างโ ดยใช้ตารางของเครจซี่และมอร์แกนโดยใช้การสุ่มแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถาม มาตราส่ วนประมาณค่า 5 ระดับ ประกอบด้วย แบบสอบถามเกี่ยวกับภาวะผู้นำ การเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัลของผู้บริหารสถานศึกษา มีอำนาจจำแนกอยู่ ระหว่าง 0.25 – 0.68 มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.80 และแบบสอบถามเกี่ยวกับประสิทธิผลการบริหารโรงเรียน มีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.25 – 0.62 มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.78 และแบบสัมภาษณ์สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบ t - test การวิเคราะห์ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์อย่างง่ายของเพียร์ และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณแต่ละขั้นตอน ผลการวิจัยพบว่า1. ภาวะผู้นำดิจิทัลของผู้บริหารสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคาย เขต 2 อยู่ในระดับมาก 2. ประสิทธิผลการบริหารโรงเรียน ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคาย เขต 2 อยู่ในระดับมาก3. ภาวะผู้นำดิจิทัลของผู้บริหารสถานศึกษา ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคาย เขต 2 จำแนกตาม สถานภาพการดำรงตำแหน่ง และขนาดโรงเรียน โดยรวมไม่แตกต่างกัน ส่วนจำแนกตามลักษณะการเปิดสอน โดยรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทาง สถิติที่ระดับ .05 4. ประสิทธิผลการบริหารโรงเรียน ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคาย เขต 2 จำแนก ตามสถานภาพการดำรงตำแหน่ง ขนาดโรงเรียน และลักษณะการเปิดสอน โดยรวมไม่แ ตกต่างกัน5. ภาวะผู้นำดิจิทัลข องผู้บริหารสถานศึกษากับประสิทธิผลการบริหารโรงเรียน ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคาย เขต 2 มีความสัมพันธ์กันทางบวก อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 (r = .591) 6. ภาวะผู้นำดิจิทัลของผู้บริหารสถา นศึกษา จำนวน 3 ด้านที่สามารถพยากรณ์ประสิทธิผลการบริหารโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคาย เขต 2 ได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ได้แก่ ด้านจริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ด้านการสื่อสารดิจิทัล และด้านการสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้ในโลกดิจิทัล โดยมีอำนาจพยากรณ์ร้อยละ 47.70 และมีความคลาดเคลื่อนของการพยากรณ์ +0.37 7. แนวทางการพัฒนาภ าวะผู้นำดิจิทัลของผู้บริหารส ถานศึกษาที่ส่งผลต่อประสิทธิผลการบริหารโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคาย เขต 2 สรุปได้ดังนี้ ด้านจริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ผู้บริหารควรสนับสนุนกฎหมายและนโยบายที่ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีอย่างมีจริยธรรมร่วมกันสร้างสังคมออนไลน์ที่ปลอดภัยและเป็นมิตร ด้านการสื่อสารดิจิทัล ผู้บริหารควรมีการสื่อสารผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล และเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้านการสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้ในโลกดิจิทัล ผู้บริหารเป็นแบบอย่างที่ดีในการเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องในโลกดิจิทัล
This research aimed to examine, compare, and determine the relationship, identify predictive power, and establish guidelines for developing digital leadership affecting the effectiveness of school administration under Nong Khai Primary Educational Service Area Office 2. The sample consisted of 286 participants, including school administrators and teachers from 104 schools in the 2024 academic year. The sample size determination was done through the Krejcie and Morgan table and multi -stage sampling. The data collection tools comprised interview forms and sets of 5 -point rating scale questionnaires focusing on transformational leadership in the digital era of school administrators and the effectiveness of school administration, with discriminative power values ranging from 0.25 to 0.68 and from 0.25 to 0.62, and the reliability of 0.80 and 0.78, respectively. Statistics for data analysis included frequency, percentage, mean, standard deviation, t - test, and Pearson’s product -moment correlation coefficient.The results showed that:1. The digital leadership of school administrators under Nong Khai Primary Educational Service Area Office 2 was at a high level. 2. The effectiveness of school administration under Nong Khai Primary Educational Service Area Office 2 was at a high level.3. The digital leadership of school administrators under Nong Khai Primary Educational Service Area Office 2 showed no significant differences overall when classified by participants’ positions and school sizes. However, significant differences were found at the .05 level when classified by the types of programs offered. 4. The effectiveness of school administration under Nong Khai Primary Educational Service Area Office 3, classified by participants’ positions, school sizes, and types of programs offered, showed no difference overall. 5. The digital leadership of school administrators and the effectiveness of school administration under Nong Khai Primary Educational Service Area Office 2 had a positive relationship at the .01 level of significance (r = .591). 6. The digital leadership of school administrators, comprising three aspects, was able to predict the effectiveness of school administration under Nong Khai Primary Educational Service Area Office 2 at the .01 level of significance. The said variables included Ethical Use of Digital Technology, Digital Communication with the predictive power accounting for 47.70 percent and a standard error of estimate of +0.37. 7. The guidelines for developing school administrators’ digital leadership affecting the effectiveness of school administration under Nong Khai Primary Educational Service Area Office 3 encompass the following: Ethical Use of Digital Technology: Administrators should advocate for laws and policies that promote ethical technology use, fostering a safe and friendly online environment. Digital Communication: Administrators should effectively communicate through digital platforms and select appropriate technologies to optimize workflow. Building a Learning Culture in the Digital World: Administrators should serve as good role models by engaging in continuous learning and self - development in the digital world.
