การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อศึกษา เปรียบเทียบ หาความสัมพันธ์หาอำนาจพยากรณ์ และหาแนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรมในยุค 5.0 ของผู้บริหารที่ส่งผลต่อประสิทธิผลการบริหารโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 1 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา และครูผู้สอน ปีการศึกษา 2567 จำนวน 338 คน ประกอบด้วย ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 70 คน และครูผู้สอน จำนวน 268 คน กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างตามตารางของ Krejcie and Morgan และใช้การสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบสอบถาม และแบบสัมภาษณ์ แบบสอบถามเกี่ยวกับภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรมในยุค 5.0 ของผู้บริหาร มีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.406 - 0.799 มีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 0.966 และแบบสอบถามเกี่ยวกับประสิทธิผลการบริหารโรงเรียน มีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.261 - 0.747 มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.932 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบสถิติที การทดสอบสถิติเอฟ การวิเคราะห์ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์อย่างง่ายของเพียร์สัน และวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณแต่ละขั้นตอน ผลการวิจัยพบว่า1. ภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรมในยุค 5.0 ของผู้บริหาร โดยรวมอยู่ในระดับมาก2. ประสิทธิผลการบริหารโรงเรียน โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด3. ผลการเปรียบเทียบภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรมในยุค 5.0 ของผู้บริหาร จำแนกตามสถานภาพการดำรงตำแหน่ง และประสบการณ์ในการปฏิบัติงานโดยรวม แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ส่วนจำแนกตามขนาดโรงเรียนโดยรวม ไม่แตกต่างกัน4. ผลการเปรียบเทียบประสิทธิผลการบริหารโรงเรียน จำแนกตามสถานภาพการดำรงตำแหน่งโดยรวม แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 จำแนกตามประสบการณ์ในการปฏิบัติงานและจำแนกตามขนาดโรงเรียนโดยรวม ไม่แตกต่างกัน5. ภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรมในยุค 5.0 ของผู้บริหารกับประสิทธิผลการบริหารโรงเรียนมีความสัมพันธ์กันในทางบวก อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยมีความสัมพันธ์อยู่ในระดับสูง (RXY = 0.747)6. ภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรมในยุค 5.0 ของผู้บริหาร ที่สามารถพยากรณ์ประสิทธิผลการบริหารโรงเรียนโดยรวม ได้แก่ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการจัดการศึกษา การมีส่วนร่วมและการทำงานเป็นทีมเชิงนวัตกรรม การมีวิสัยทัศน์เชิงนวัตกรรมสู่การเปลี่ยนแปลง และการคิดสร้างสรรค์เชิงนวัตกรรม โดยมีอำนาจพยากรณ์ ร้อยละ 60.00 และมีความคลาดเคลื่อนมาตรฐานของการพยากรณ์เท่ากับ 0.266787. แนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรมในยุค 5.0 ของผู้บริหาร จำนวน 4 ด้าน คือ 7.1) การมีวิสัยทัศน์เชิงนวัตกรรมสู่การเปลี่ยนแปลง ดำเนินการโดยการจัดอบรมหรือประชุมเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับการสร้างวิสัยทัศน์เชิงนวัตกรรมใหม่ ๆ 7.2) การคิดสร้างสรรค์เชิงนวัตกรรม ดำเนินการโดยผู้บริหารควรเปิดใจรับความคิดใหม่ ๆ นำวิธีการใหม่ คิดนอกกรอบ และส่งเสริมการคิดเชิงออกแบบ 7.3) การมีส่วนร่วมและการทำงานเป็นทีมเชิงนวัตกรรม ดำเนินการโดยผู้บริหารต้องส่งเสริมการทำงานเป็นทีมและเปิดโอกาสให้บุคลากรมีส่วนร่วมทุกขั้นตอน 7.4) การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการจัดการศึกษา ดำเนินการโดย ผู้บริหารต้องพัฒนาและใช้งานระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ แพลตฟอร์ม เครื่องมือที่ทันสมัย
This research aims to study, compare, find relationships, find predictive power, and find guidelines for developing innovative leadership in the 5.0 era of administrators that affect the effectiveness of school administration under the Office of Sakon Nakhon Primary Educational Service Area 1, The samples used in the research were 338 school administrators and teachers in the 2024 academic year, consisting of 70 school administrators and 268 teachers. The sample size was determined according to the table of Krejcie and Morgan and a multi-stage random sampling was used. The data collection tools included questionnaires and interviews. The questionnaire on innovative leadership in the 5.0 era of administrators had a discrimination power between 0.406 - 0.799 and a reliability value of 0.966. The questionnaire on school administration effectiveness had a discrimination power between 0.261 - 0.747 and a reliability value of 0.932. The statistics used for data analysis were frequency, percentage, mean, standard deviation, t-test, F-test, and Pearson's simple correlation coefficient analysis. and analyze each step of multiple regression.The findings were as follows:1. The overall innovative leadership in the 5.0 era of the administrators is at a high level.2. The overall effectiveness of school administration is at a highest level.3. The results of the comparison of the innovative leadership in the 5.0 era of the administrators classified by their position status and overall work experience found that they were significantly different at the .01 statistical level. As for the classification by overall school size, they found that they were not different.4. The results of the comparison of school administration efficiency classified by status and overall position differed significantly at the .01 level. Classified by work experience and classified by overall school size did not differ.5. Innovative leadership in the 5.0 era of administrators and school administration effectiveness have a positive relationship with statistical significance at the .01 level, with a high level of relationship (RXY = 0.747).6. Innovative leadership in the 5.0 era of administrators that can predict the overall effectiveness of school administration include the application of information technology in education management, participation and innovative teamwork, having an innovative vision for change, and innovative thinking, with a forecasting power of 60.00 percent and a standard error of forecasting equal to 0.26678.7. Guidelines for developing innovative leadership in the 5.0 era for executives in 4 areas: 7.1) innovative vision for change by organizing training on creating new innovative visions. 7.2) Innovative creativity, where executives should be open to new ideas and promote design thinking. 7.3) Innovative participation and teamwork, where executives must promote teamwork and give personnel opportunities to participate. 7.4) Application of information technology in education management, where executives must develop and use modern information technology, platforms, and tools.
