การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อศึกษา เปรียบเทียบ หาความสัมพันธ์หาอำนาจพยากรณ์ และหาแนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารที่ส่งผลต่อสมรรถนะครูในศตวรรษที่ 21 ตามมาตรฐานวิชาชีพครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วยผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอนในปีการศึกษา 2567 จำนวน 324 คน จำแนกเป็นผู้บริหารสถานศึกษา 74 คน และครูผู้สอน 250 คน กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้ตารางของ Krejcie and Morgan และเลือกกลุ่มตัวอย่างด้วยวิธีการสุ่มแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม และแบบสัมภาษณ์ โดยแบบสอบถามเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ประกอบด้วย แบบสอบถามเกี่ยวกับภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหาร มีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.275 - 0.746 มีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 0.849 และแบบสอบถามเกี่ยวกับสมรรถนะครูในศตวรรษที่ 21 ตามมาตรฐานวิชาชีพครู มีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.270 - 0.768 มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.947 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-Way ANOVA) การทดสอบความแตกต่างระหว่างค่าเฉลี่ยรายคู่ โดยวิธีการของ Scheffe’s method ค่าสัมประสิทธิสหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน (Pearson’s Product-Moment Correlation Coefficient) และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณแต่ละขั้นตอน (Stepwise Multiple Regression Analysis) ผลการวิจัยพบว่า 1. ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหาร โดยรวมอยู่ในระดับมาก 2. สมรรถนะครูในศตวรรษที่ 21 ตามมาตรฐานวิชาชีพครู โดยรวมอยู่ในระดับมาก 3. ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหาร จำแนกตามสถานภาพการดำรง ตำแหน่ง และประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน พบว่า โดยรวม และรายด้านไม่แตกต่างกัน ส่วนจำแนกตามขนาดโรงเรียน พบว่า โดยรวม และรายด้านมีความแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 4. สมรรถนะครูในศตวรรษที่ 21 ตามมาตรฐานวิชาชีพครู จำแนกตามสถานภาพการดำรงตำแหน่ง และประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน พบว่า โดยรวมและรายด้านไม่แตกต่างกัน ส่วนจำแนกตามขนาดโรงเรียน พบว่า โดยรวม และรายด้านแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 5. ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารกับสมรรถนะครูในศตวรรษที่ 21 ตามมาตรฐานวิชาชีพครู มีความสัมพันธ์กันทางบวก อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 โดยมีความสัมพันธ์ในระดับสูง (rxy = 0.823**) 6. ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหาร ที่สามารถพยากรณ์สมรรถนะครูในศตวรรษที่ 21 ตามมาตรฐานวิชาชีพครู อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 จำนวน 4 ด้าน ได้แก่ ด้านการมีอิทธิพลอย่างมีอุดมการณ์ ด้านการเป็นผู้มีวิสัยทัศน์ในการเปลี่ยนแปลง ด้านการกระตุ้นทางปัญญา ด้านการสร้างบารมีและเป็นแบบอย่างที่ดี และมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 จำนวน 1 ด้าน ได้แก่ ด้านการคำนึงถึงความเป็นปัจเจกบุคคล โดยสามารถร่วมกันพยากรณ์ได้ร้อยละ 69.00 และมีความคลาดเคลื่อนมาตรฐานของการพยากรณ์ เท่ากับ ±0.19546 7. แนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารที่ส่งผลต่อสมรรถนะครูในศตวรรษที่ 21 ตามมาตรฐานวิชาชีพครู ได้แก่ 1) ด้านการคำนึงถึงความเป็นปัจเจกบุคคล ผู้บริหารควรยอมรับความแตกต่างของบุคคล 2) ด้านการกระตุ้นทางปัญญา ผู้บริหารควรกระตุ้นครูให้ทำงานสำเร็จตามเป้าหมาย 3) ด้านการสร้างบารมีและเป็นแบบอย่างที่ดี ผู้บริหารควรเป็นแบบอย่างที่น่าเคารพ ยกย่อง 4) ด้านการมีอิทธิพลอย่างมีอุดมการณ์ ผู้บริหารควรมีอุดมการณ์กว้างไกล และ 5) ด้านการเป็นผู้มีวิสัยทัศน์ในการเปลี่ยนแปลง ผู้บริหารควรมีวิสัยทัศน์ ที่สอดคล้องกับบริบทของสังคมในปัจจุบัน
This research aimed to examine, compare, and determine the relationship, identify the predictive power, and establish guidelines for developing administrators’ transformational leadership that affected teacher competency in the 21st century based on teacher professional standards under Sakon Nakhon Primary Educational Service Area Office 3. The sample group, obtained through a multi-stage random sampling method, consisted of 324 participants, including 74 school administrators and 250 teachers in the 2024 academic year. The sample size was determined using the Krejcie and Morgan table. The research instruments included questionnaires and interview forms. The research instruments comprised two sets of 5-level rating scale questionnaires: one assessing administrators’ transformational leadership, with a discrimination power ranging from 0.275 to 0.746 and a reliability of 0.849, and the other evaluating teacher competency in the 21st century based on teacher professional standards, with a discrimination power ranging from 0.270 to 0.768 and a reliability of 0.947. The statistics used in data analysis were frequency, percentage, mean, standard deviation, One-Way ANOVA, Scheffe’s method, Pearson’s product-moment correlation coefficient, and Stepwise multiple regression analysis. The research results found that: 1. Administrators’ transformational leadership was overall at a high level. 2. Teacher competency in the 21st century based on teacher professional standards was overall at a high level. 3.-4. Administrators’ transformational leadership and teacher competency in the 21st century, based on professional teaching standards, showed no differences overall or in each aspect in terms of participants’ positions and work experience. However, both measures revealed significant differences at the 0.01 level of significance when analyzed by school sizes, both overall and in each aspect. 5. Administrators’ transformational leadership and teacher competency in the 21st century based on teacher professional standards showed a positive relationship at the 0.01 level of significance, with a high level (rxy = 0.823**). 6. Administrators’ transformational leadership could predict teacher competency in the 21st century based on teacher professional standards at the 0.01 level of significance, comprising four aspects: idealized influence, being a visionary in change, intellectual stimulation, and building charisma and being a good role model. Only one aspect, individualized consideration, achieved the 0.05 level of significance. These variables could jointly predict at 69.00 percent with a standard error of prediction equal to ±0.19546. 7. The guidelines for developing administrators’ transformational leadership affecting teacher competency in the 21st century based on teacher professional standards comprised five aspects: 1) individual consideration, administrators should accept individual differences; 2) intellectual stimulation, administrators should motivate teachers to achieve goals; 3) building charisma and being a good role model, administrators should be respectable and admirable role models; 4) individualized influence, administrators should possess a broad vision; and 5) being a visionary for change, administrators should align vision with societal context.
