การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อศึกษา เปรียบเทียบ หาความสัมพันธ์หาอำนาจพยากรณ์ และหาแนวทางการพัฒนา ทักษะการปฏิบัติงานของผู้บริหารโรงเรียนยุคดิจิทัลที่ส่งผลต่อประสิทธิผลการบริหารโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนครเขต 2 ตามความคิดเห็นของผู้บริหารโรงเรียนและครูผู้สอน กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริหารโรงเรียนและครูผู้สอน ปีการศึกษา 2567 จำนวน 278 คน จำแนกเป็นผู้บริหารโรงเรียน จำนวน 61 คน ครูผู้สอน 217 คน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ประกอบด้วยแบบสอบถามด้านทักษะการปฏิบัติงานของผู้บริหารโรงเรียน ค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.841 - 0.958 และค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.970 แบบสอบถามด้านประสิทธิผลการบริหารโรงเรียน ค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.880 - 0.944 และค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.963 และแบบสัมภาษณ์แนวทางพัฒนา สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติทดสอบค่าที การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียวค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์อย่างง่ายของเพียร์สัน และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณแต่ละขั้นตอน ผลการวิจัยพบว่า 1. ทักษะการปฏิบัติงานของผู้บริหารโรงเรียน โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด 2. ประสิทธิผลการบริหารงานในโรงเรียน โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด 3. ทักษะการปฏิบัติงานของผู้บริหารโรงเรียน จำแนกตามสถานภาพการดำรงตำแหน่ง โดยรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ส่วนจำแนกเขตที่ตั้งของโรงเรียน และประสบการณ์ในการปฏิบัติงานโดยรวมไม่แตกต่างกัน 4. ประสิทธิผลการบริหารงานในโรงเรียน จำแนกตามสถานภาพการดำรงตำแหน่ง โดยรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนจำแนกเขตที่ตั้งของโรงเรียน และประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน โดยรวมไม่แตกต่างกัน 5. ทักษะการปฏิบัติงานของผู้บริหารโรงเรียนและประสิทธิผลการบริหารโรงเรียนมีความสัมพันธ์ทางบวกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยมีความสัมพันธ์ระดับสูง (rXtYt = 0.805) 6. ทักษะการปฏิบัติงานของผู้บริหารโรงเรียนจำนวน 3 ด้าน สามารถพยากรณ์ประสิทธิผลการบริหารงานในโรงเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 คือ ทักษะการสื่อสารที่ดีในยุคดิจิทัล ทักษะมนุษยสัมพันธ์และการทำงานเป็นทีมของผู้บริหารยุคใหม่ และทักษะการมีวิสัยทัศน์ในการบริหารสถานศึกษาในยุคดิจิทัล โดยอำนาจพยากรณ์ได้ร้อยละ 66.40 7. การวิจัยในครั้งนี้ได้นำเสนอแนวทางการพัฒนาทักษะการปฏิบัติงานของผู้บริหารโรงเรียนยุคดิจิทัล จำนวน 3 ด้าน ที่ส่งผลต่อประสิทธิผลการบริหารงานในโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา คือ 1) ทักษะการสื่อสารที่ดีในยุคดิจิทัล โดย การสื่อสารข้อมูลสำคัญชัดเจน เข้าใจง่าย ตรงประเด็น โปรงใส และรวดเร็ว 2) ทักษะมนุษยสัมพันธ์และการทำงานเป็นทีมของผู้บริหารยุคใหม่ โดย การสร้างความร่วมมือกับกลุ่มบุคคลในการการทำงานร่วมกัน และ 3) ทักษะการมีวิสัยทัศน์ในการบริหารสถานศึกษาในยุคดิจิทัล โดย กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนสอดคล้องกับบริบท ภารกิจ ค่านิยมความเชื่อและสถานการณ์ขององค์กร
The purposes of this research were to examine, compare, and determine the relationship, identify the predictive power, and establish guidelines for developing operational skills of school administrators in the digital era affecting the administrative effectiveness in educational opportunity expansion schools under Sakon Nakhon Primary Educational Service Area Office 2, as perceived by school administrators and teachers. The sample consisted of 278 participants, including 61 school administrators and 217 teachers in the 2024 academic year. The research instrument included a 5-point rating scale questionnaire. The data collection tools included a set of questionnaires on the operational skills of school administrators in the digital era, with discrimination values ranging from 0.841 to 0.958 and the reliability of 0.970, as well as another questionnaire on administrative effectiveness, with discrimination values ranging from 0.880-0.944 and the reliability of 0.963, and structured interview forms. Statistics for data analysis were frequency, percentage, mean, standard deviation, t-test for Independent Samples, One-Way ANOVA, Pearson’s product-moment correlation coefficient, and Stepwise multiple regression analysis. The findings were as follows: 1. The operational skills of school administrators were overall at the highest level. 2. The administrative effectiveness in schools was overall at the highest level. 3. The overall operational skills of school administrators, classified by participants’ positions, revealed significant differences at the 0.01 level. However, no significant differences were found in terms of school location and work experience. 4. The overall administrative effectiveness in schools, classified by positions, showed significant differences at the 0.05 level. However, no significant differences were observed regarding school location or work experience. 5. The school administrators’ operational skills and the administrative effectiveness had a positive relationship at the .01 level of significance with a high level of correlation (rXtYt = 0.805). 6. The three aspects of the school administrators’ operational skills- good communication skills in the digital era, interpersonal skills and teamwork of modern administrators, and visionary skills in school administration in the digital era- could predict the administrative effectiveness at the .01 level of significance, with the predictive power of 66.40 percent. 7. The proposed guidelines for developing the operational skills of school administrators in the digital era focus on three aspects affecting the administrative effectiveness in educational opportunity expansion schools: 1) Good communication skills in the digital era, including the ability to communicate important information, concisely, transparently, and promptly; 2) Interpersonal skills and teamwork for new-age administrators, fostering cooperation and collaboration among teams; and 3) Visionary skills in school administration in the digital era, involving the formulation of clear goals aligned with the organization's context, mission, values, beliefs, and circumstances.
