การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์และความต้องการจำเป็นของการนิเทศภายใน 2) สร้างและพัฒนากลยุทธ์การนิเทศภายใน 3) ประเมินกลยุทธ์การนิเทศภายใน การดำเนินการวิจัยครั้งนี้มี 3 ระยะ ประกอบด้วย ระยะที่ 1 ศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์และความต้องการจำเป็นของกลยุทธ์การนิเทศภายในที่มีประสิทธิผลของสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาในจังหวัดสกลนคร กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริหารการศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา ศึกษานิเทศก์ ครูผู้สอน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนครในจังหวัดสกลนคร จำนวน 360 คน เครื่องมือการวิจัย คือ แบบสอบถามมีค่าความเชื่อมั่น 0.98 สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ระยะที่ 2 การสร้างและพัฒนากลยุทธ์ กลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 10 คน ระยะที่ 3 ประเมินกลยุทธ์ กลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้เชี่ยวชาญที่ร่วมสัมมนาอิงผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 10 คน และผู้ทรงคุณวุฒิผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เข้าร่วมประชาพิจารณ์ จำนวน 30 คน
ผลการวิจัยพบว่า
1. สภาพปัจจุบันของการนิเทศภายใน โดยรวมอยู่ในระดับมาก สภาพ ที่พึงประสงค์การนิเทศภายใน โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ความต้องการจำเป็นเรียงจากมากไปหาน้อย คือ 1) ด้านขอบข่ายของการนิเทศภายใน 2) ด้านปัจจัยที่ส่งผลต่อการนิเทศภายใน 3) ด้านประสิทธิผลของการนิเทศภายใน และ 4) ด้านกระบวนการนิเทศภายใน
2. กลยุทธ์การนิเทศภายใน มีองค์ประกอบสำคัญ คือ วิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าประสงค์ กลยุทธ์ โครงการ/กิจกรรม ตัวชี้วัด 4 ประเด็น 15 กลยุทธ์ 42 โครงการ/กิจกรรม 24 ตัวชี้วัด ด้านขอบข่ายของการนิเทศภายใน มี 4 กลยุทธ์ 9 โครงการ/กิจกรรม 4 ตัวชี้วัด ด้านปัจจัยที่ส่งผลต่อการนิเทศภายใน มี 3 กลยุทธ์ 6 โครงการ/กิจกรรม 5 ตัวชี้วัด ด้านประสิทธิผลของการนิเทศภายใน มี 4 กลยุทธ์ 15 โครงการ/กิจกรรม 10 ตัวชี้วัด ด้านกระบวนการนิเทศภายใน มี 4 กลยุทธ์ 12 โครงการ/กิจกรรม 5 ตัวชี้วัด
3. ผลการประเมินกลยุทธ์การนิเทศภายใน พบว่า กลยุทธ์การนิเทศภายในที่มีประสิทธิผลของสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาในจังหวัดสกลนคร มีความสอดคล้อง ความเหมาะสม ความเป็นไปได้ เป็นประโยชน์ อยู่ในระดับมากที่สุด
This research aimed to 1) examine the current and desired conditions and needs for internal supervision; 2) construct and develop internal supervision strategies; and 3) evaluate internal supervision strategies. The research was conducted in three phases: Phase 1 was related to examining the current and desired conditions, and needs for effective internal supervision strategies in schools under Sakon Nakhon Primary Education Area Office. The sample group consisted of 360 educational administrators, school administrators, educational supervisors, and teachers working under Sakon Nakhon Primary Education Area Office. The research instrument was a set questionnaire with the reliability of 0.98. The statistics used in the research were frequency, percentage, mean, and standard deviation. Phase 2 involved strategy construction and development. The target group comprised ten experts. Phase 3 was a strategy evaluation. The target group was ten experts participating in the expert-based seminars and 30 qualified scholars and stakeholders participating in the public hearing.
The research results revealed that:
1. The current conditions of internal supervision were overall at a high level, while the desired conditions were overall at the highest level. The needs that were ranked from most to least were as follows: 1) the scope of internal supervision, 2) factors affecting internal supervision, 3) the effectiveness of internal supervision, and 4) the Internal supervision process.
2. The internal supervision strategy consisted of the following major components: vision, mission, objectives, strategies, projects/activities, and indicators, with four aspects, 15 strategies, 42 projects/activities, and 24 indicators. With the scope of internal supervision, there were four strategies, nine projects/activities, and four indicators. For the factors affecting internal supervision, three strategies, six projects/activities, and five indicators were identified. Regarding the effectiveness of internal supervision, there were four strategies, 15 projects/activities, and ten indicators. As for the internal supervision process, four strategies, 12 projects/activities, and five indicators were included.
3. The evaluation results showed that the internal supervision strategies that were considered most effective in schools under Sakon Nakhon Primary Educational Service Area Office were those rated at the highest level in terms of consistency, appropriateness, feasibility, and usefulness.
