การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อศึกษา เปรียบเทียบ หาความสัมพันธ์ หาอำนาจพยากรณ์ และหาแนวทางการพัฒนาสมรรถนะผู้บริหารที่ส่งผลต่อประสิทธิผลการเบิกจ่ายงบประมาณประจำปีของวิทยาลัย สังกัดสถาบันการอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วยผู้บริหารสถานศึกษา หัวหน้าการเงิน และครูผู้สอน ปีการศึกษา 2567 จำนวน 300 คน จากจำนวน 10 วิทยาลัยกำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างโดยใช้ตารางของเครจซี่และมอร์แกนโดยใช้การสุ่มแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ประกอบด้วย แบบสอบถามสมรรถนะผู้บริหาร มีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.52 – 0.93 มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.98 ประสิทธิผลการเบิกจ่ายงบประมาณประจำปีของวิทยาลัย มีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.39 – 0.99 มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.98 และแบบสัมภาษณ์แนวทางพัฒนาสมรรถนะผู้บริหาร สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว การวิเคราะห์ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์อย่างง่ายของเพียร์สัน และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณแต่ละขั้นตอน ผลการวิจัยพบว่า 1. สมรรถนะผู้บริหาร ตามความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา หัวหน้างานการเงินและครูผู้สอน อยู่ในระดับมาก (x̄ = 4.01) 2. ประสิทธิผลการเบิกจ่ายงบประมาณประจำปีของวิทยาลัย ตามความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา หัวหน้างานการเงินและครูผู้สอนอยู่ในระดับมาก (x̄ = 4.44) 3. สมรรถนะผู้บริหาร ตามความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา หัวหน้างานการเงิน และครูผู้สอน จำแนกตามสถานภาพ ขนาดของสถานศึกษา และประสบการณ์ในการปฏิบัติงานโดยรวมและรายด้านไม่แตกต่างกัน 4. ประสิทธิผลการเบิกจ่ายงบประมาณประจำปีของวิทยาลัย ตามความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา หัวหน้างานการเงิน และครูผู้สอน จำแนกตามสถานภาพ ขนาดของสถานศึกษา และประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน โดยรวมและรายด้านไม่แตกต่างกัน 5. สมรรถนะผู้บริหารและประสิทธิผลการเบิกจ่ายงบประมาณประจำปีของวิทยาลัย มีความสัมพันธ์กันทางบวก (r = .637**) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 6. สมรรถนะผู้บริหารที่ส่งผลต่อการบริหารงานประสิทธิผลการเบิกจ่ายงบประมาณประจำปีของวิทยาลัย โดยรวมตัวแปรที่นำมาวิเคราะห์ 5 ตัวแปร พบว่า มีตัวแปร 2 ตัวแปร ที่สามารถพยากรณ์ประสิทธิผลการเบิกจ่ายงบประมาณประจำปีของวิทยาลัย (Y) ได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ได้ร้อยละ 43.30 และมีความคลาดเคลื่อนของการพยากรณ์ ±0.38. 7. แนวทางการพัฒนาสมรรถนะผู้บริหารที่ส่งผลต่อประสิทธิผลการเบิกจ่ายงบประมาณประจำปีของวิทยาลัย สรุปจากคำสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ ดังนี้ ผู้บริหารควรสื่อสารข้อมูลเกี่ยวกับงบประมาณอย่างชัดเจนและโปร่งใส ให้บุคลากรทุกระดับเข้าใจถึงวัตถุประสงค์ แผนการใช้จ่าย และความสำคัญของการเบิกจ่ายงบประมาณตามเป้าหมาย
This research aimed to examine, compare, and determine the relationship, identify the predictive power, and establish guidelines for developing administrators’ competency affecting the effectiveness of annual budgetary disbursement in colleges under the Institute of Vocational Education, Northeastern Region 1 (IVEN 1). The sample consisted of 300 participants, including school administrators, heads of financial departments, and teachers from ten colleges in the 2024 academic year. The sample size was determined using the Krejcie and Morgan table and selected through multi -stage random sampling. The data collection tools included a set of questionnaires assessing administrators' competency, and the effectiveness of annual budgetary disbursement in colleges, with the discriminative power values ranging from 0.52 to 0.93, and from 0.39 to 0.99, and the reliability of 0.98 and 0.98, respectively. The interview forms were also employed to establish guidelines for developing administrators’ competency. The statistics for data analysis included frequency, percentage, mean, standard deviation, One-Way ANOVA, Pearson's product-moment correlation coefficient, and Stepwise multiple regression analysis. The findings were as follows 1. The administrators’ competency, as perceived by participants, was rated at a high level (x̄ = 4.01). 2. The effectiveness of annual budgetary disbursement in colleges, as perceived by participants, was rated at a high level (x̄ = 4.44). 3. The administrators’ competency, as perceived by participants with different status, school sizes, and work experience, showed no differences, overall and in each aspect. 4. The effectiveness of annual budgetary disbursement in colleges, as perceived by participants with different status, school sizes, and work experience, showed no differences, overall and in each aspect. 5. The administrators’ competency and the effectiveness of the annual budgetary disbursement in colleges showed a positive relationship (r = 0.637**) at the .01 significance level. 6. The administrators’ competency affecting the effectiveness of the annual budgetary disbursement in colleges encompassed five variables, two of which significantly predicted the effectiveness of the annual budgetary disbursement in colleges (Y) at the .01 level of significance. These two variables accounted for 43.30 percent, with the standard error of estimate of ±0.38. 7. The guidelines for developing administrators’ competency that influenced the effectiveness of the annual budgetary disbursement in colleges, based on expert interviews, revealed that administrators should communicate budget-related information clearly and transparently to ensure that personnel at all levels understand the objectives, spending plans, and the importance of disbursing budgets in alignment with institutional goals.
