สืบค้นเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) จากฐานข้อมูลวิทยานิพนธ์ (Thesis Database)
ของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร

ชื่อวิทยานิพนธ์
ความต้องการจำเป็นและแนวทางพัฒนาภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงในยุคพลิกผันของผู้บริหารโรงเรียน ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครพนม

Needs and Guidelines for Developing Transformational Leadership in the Disruptive Era in Schools under the Secondary Educational Service Area Office Nakhon Phanom

ผู้จัดทำ
พรนิภา ปัญหาไชย

รหัส
66421229113

ระดับ
ป.โท ภาคพิเศษ

หลักสูตร
ครุศาสตรมหาบัณฑิต (ค.ม.)

ปี พ.ศ.
2568

ที่ปรึกษา
รองศาสตราจารย์ ดร.ธวัชชัย ไพใหล,ดร.ประภัสร สุภาสอน

บทคัดย่อ

      การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายของการวิจัยเพื่อศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่ พึงประสงค์ ความต้องการจำเป็น และแนวทางพัฒนาภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงในยุคพลิกผันของผู้บริหารโรงเรียน ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครพนม กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา และครูผู้สอน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครพนม ปีการศึกษา 2567 จำนวน 339 คน จำแนกเป็นกลุ่มผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 51 คน และครูผู้สอน จำนวน 288 คน จากโรงเรียน 51 โรงเรียน การกำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างใช้ตารางของเครจซี่และมอร์แกน สุ่มกลุ่มตัวอย่างโดยใช้การสุ่มแบบแบ่งชั้น เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย เป็นแบบสอบถามมาตราส่วน ประมาณค่า 5 ระดับ ประกอบด้วยแบบสอบถามภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงในยุคพลิกผัน สภาพปัจจุบันมีค่าอำนาจจำแนกรายข้ออยู่ระหว่าง 0.607 – 0.854 และมีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 0.983 และสภาพที่พึงประสงค์มีค่าอำนาจจำแนกรายข้ออยู่ ระหว่าง 0.398 – 0.721 และค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.961 ตามลำดับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าดัชนีความต้องการจำเป็นทดสอบสมมติฐานโดยใช้การวิเคราะห์ t - test และ One - Way ANOVA และการคำนวณระดับความต้องการจำเป็นใช้วิธี Modified Priority Needs Index (PNImodified)
      ผลการวิจัย พบว่า 
            1. ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงในยุคพลิกผันมีสภาพปัจจุบันโดยรวมอยู่ใน ระดับมาก (= 3.67) ส่วนสภาพที่พึงประสงค์โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (= 4.70) 
            2. สภาพปัจจุบันของภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงในยุคพลิกผัน จำแนกตามสถานภาพการดำรงตำแหน่ง ขนาดโรงเรียนและประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน โดยรวม พบว่า ไม่แตกต่างกัน
            3. สภาพที่พึงประสงค์ของภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงในยุคพลิกผัน จำแนก ตามประสบการณ์ในการปฏิบัติงานโดยรวม พบว่า มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ส่วนจำแนกตามสถานภาพการดำรงตำแหน่ง โดยรวม พบว่า มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และจำแนกตามขนาดโรงเรียน โดยรวม พบว่า ไม่แตกต่างกัน
            4. ความต้องการจำเป็นในการพัฒนาภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงในยุคพลิกผัน ตามความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอน โดยเรียงลำดับความสำคัญ ของความต้องการจำเป็นจากมากไปหาน้อย คือ ด้านการมีวิสัยทัศน์ด้วยการสร้างเครือข่ายเป็นทีม ด้านการสร้างแรงบันดาลใจเชิงสร้างสรรค์ และลำดับสุดท้าย คือ ด้านการคำนึงถึงความเป็นปัจเจกบุคคลบนความยืดหยุ่น
            5. แนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงในยุคพลิกผัน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครพนม ที่ได้จากการศึกษาเอกสาร และการสัมภาษณ์อย่างเป็นทางการของโรงเรียนที่มีความเป็นเลิศ (Best Practice) เกี่ยวกับภาวะผู้นำการ เปลี่ยนแปลงในยุคพลิกผัน ทั้ง 3 ด้าน จนประสบผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ มี 3 ด้าน ดังนี้ 1) ด้านการมีวิสัยทัศน์ด้วยการสร้างเครือข่ายเป็นทีม ผู้บริหารโรงเรียนควรกำหนดวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน รวมถึงมีการสร้างเครือข่ายในการทำงานร่วมกัน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายเดียวกัน 2) ด้านการสร้างแรงบันดาลใจเชิงสร้างสรรค์ ควรสร้างแรงบันดาลใจ ในการทำงาน โดยมีการส่งเสริม สนับสนุน สร้างขวัญและกำลังใจในให้แก่บุคลากรในองค์กรอย่างสร้างสรรค์และยั่งยืน และ 3) ด้านการคำนึงถึงความเป็นปัจเจกบุคคลบนความยืดหยุ่น ควรมีกระบวนการวินิจฉัยและยกระดับความต้องการของบุคลากร โดยคำนึงถึงความเป็นปัจเจกบุคคลและมีความยืดหยุ่นในการทำงาน 


Abstract

      The purposes of this research were to study the current and desired conditions, needs, and guidelines for developing transformational leadership in the disruptive era among school administrators under the Nakhon Phanom Secondary Educational Service Area Office. The sample group comprised 339 participants, including 51 school administrators and 288 teachers from 51 schools under the Nakhon Phanom Secondary Educational Service Area Office during the 2024 academic year. The sample size was determined using the Krejcie and Morgan table and selected through stratified random sampling. The research instrument was a set of 5-point rating scale questionnaires assessing transformational leadership in the disruptive era in the current condition, with item discrimination ranging from 0.607 to 0.854, and the reliability of 0.983, while the desired condition had item discrimination ranging from 0.398 to 0.721 and the reliability of 0.961. Data were analyzed using percentages, means, standard deviations, t-test, One-way ANOVA, Modified Priority Needs Index (PNImodified).
      The findings were as follows:
           1. The overall transformational leadership in the disruptive era in the current situation was rated at a high level (x̄ = 3.67), while the desired condition reached the highest level (x̄ = 4.70).
           2. No significant differences were found in the current condition of transformational leadership in terms of positions, school sizes, or work experience.
           3. The desired condition of transformational leadership in the disruptive era differed significantly based on work experience at the .01 level of significance, and by positions at the .05 level of significance. However, no significant differences were observed when categorized by school sizes.
           4. The priority needs for transformational leadership development in the disruptive era, as perceived by participants, were ranked from highest to lowest as follows: vision setting through team networks, creative and inspirational motivation, and individualized consideration with flexibility.
           5. The development guidelines derived from best practices of schools successfully implementing transformational leadership in the disruptive era were identified in three key areas: 1) Vision Setting through team networks: Administrators should clearly define visions and build collaborative networks to achieve shared goals; 2) Creative and Inspirational Motivation: Administrators should foster sustainable and creative motivation among personnel by providing continuous moral support and encouragement; and 3) Individualized Consideration with Flexibility: Administrators should diagnose and address individual personnel needs, ensuring flexibility in their approaches.


คำสำคัญ
ความต้องการจำเป็น, ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงในยุคพลิกผัน

Keywords
Priority Needs, Transformational Leadership in the Disruptive Era

ไฟล์วิทยานิพนธ์
ชื่อไฟล์ ขนาดไฟล์
00_fulltext 7700434 KB

วันที่นำเข้าข้อมูล
5/22/2025 10:32:38 AM

View
15 ครั้ง