การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมาย 1) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคผังกราฟิก เรื่อง วัสดุรอบตัว ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2) เพื่อเปรียบเทียบทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ก่อนเรียนและหลังเรียน ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคผังกราฟิก 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ก่อนเรียนและหลังเรียน ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคผังกราฟิก และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคผังกราฟิก กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านนายอ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 ซึ่งได้จากการสุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling)เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคผังกราฟิก จำนวน 5 แผน แบบทดสอบวัดทักษะการคิดวิเคราะห์ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคผังกราฟิก สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์ค่าที (t–test ชนิด Dependent Sample)
ผลการวิจัยพบว่า
1. แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง วัสดุรอบตัว โดยใช้การจัดการเรียนรู้เทคนิคผังกราฟิก ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 79.27/78.07 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 75/75 ที่กำหนดไว้
2. ทักษะการคิดวิเคราะห์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคผังกราฟิก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.32 ซึ่งอยู่ในระดับมาก
The purposes of this research were: 1) to develop and determine the efficiency of the lesson plans using graphic organizer technique on the topic of Materials Around Us for Prathomsulsa 4 students to meet the efficiency criteria of 75/75; 2) to compare analytical thinking skills of Prathomsuksa 4 students before and after learning through the learning management using graphic organizer technique; 3) to compare learning achievement of Prathomsuksa 4 students before and after learning through the developed learning management; and 4) to examine the satisfaction of Prathomsuksa 4 students toward the developed learning management. The samples, obtained through cluster random sampling, were 17 Prathomsuksa 4 students studying in the second semester of the academic year 2018 at Ban Nayo School. The research instruments included five lesson plans, an analytical thinking skills test, a learning achievement test, and a student satisfaction assessment. The statistics for data analysis were percentage, mean, standard deviation and t-test for Dependent Samples.
The findings were as followed:
1) The lesson plans on the topic of Materials Around Us based on the learning management using graphic organizer technique had the efficiency of 79.27/78.07, which was higher than the set criteria of 75/75.
2) The analytical thinking skills of Prathomsuksa 4 students after the intervention were higher than that of pre-intervention at the .01 level of statistical significance.
3) The learning achievement of Prathomsuksa 4 students after the intervention was higher than that of pre-intervention at the .01 level of statistical significance.
4) The Prathomsuksa 4 students’ satisfaction toward the developed learning management was at a high level with the mean score of 4.32.
